วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานข้างหมอนลูก


ศึกมังฉงาย

  
   มังฉงายวางกล่องเปล่าลงตรงหน้าตู้เสื้อผ้า วันนี้จะหาเสื้อไปบริจาค เพราะอาจารย์สอนมาว่าความโลภอย่างละเอียดนั้น ก็คือการที่เราติดพันผูกใจอยู่กับทรัพย์ของตนมากจนเกินไป เช่น เสื้อผ้านี่แหละ เป็นต้น ให้รู้สึกอยากจะหัดเลิกความติดพันนี้เสียบ้าง ไม่น่ายาก เรียนแล้วก็ต้องลองทำ


   หยิบเสื้อที่ไม่เคยใส่มานานออกมาชูดู เอ๊ะ ตัวนี้ก็สวย ยังดูดีด้วย เอาไว้ใส่ได้ เก็บก่อนการณ์เป็นเช่นนี้ไปเรี่อยๆๆๆๆ ในที่สุด มังฉงายก็ยกกล่องเปล่าไปเก็บ
  
   ต่อๆ มา ตอนเช้าจะรีบไปทำงาน เปิดตู้ออกมาเจอแต่ตัวที่วันนี้จะไม่ใส่ อยากใส่ตัวที่หาไม่เจอ หัวมุดไปมุดมาอยู่ในตู้จนเหงื่อซก อ้าวตัวนี้ก็มีด้วยเหรอ ลืมไปแล้ว แต่ไว้ก่อนยังไม่ใช่ตัวที่อยากใส่ พอดีเจอตัวที่อยากใส่ก่อนหน้ามืดชั่วอึดใจเดียว


    การณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในที่สุดมังฉงายก็เบื่อความเต็มตู้อยากบริจาคอีก แต่ก็ต้องยกกล่องเปล่าไปเก็บเหมือนเดิมอีก 2 ครั้ง ให้นึกตะขิดตะขวงใจขึ้นมากับคำว่า โลภแบบละเอียดของอาจารย์ เอ..มันชักทำยาก

  
   อย่ากระนั้นเลย เสียชื่อมังฉงาย คราวนี้เอาใหม่ โทรศัพท์ไปหาเกลออ้อน บอกให้ช่วยสงเคราะห์มารับกล่องเสื้อผ้าไปไว้บ้านนะเวลาไปต่างจังหวัดช่วยติดรถไปแจกคนยากจนให้ด้วย เกลออ้อนใจดีรับคำ บอกว่าไปเดี๋ยวนี้เลย นายรีบยกลังลงมา

  
   นัดกันเสร็จ มังฉงายยกทัพไปที่ตู้เสื้อผ้า ตั้งกติกามารยาทว่า เอาเสื้อที่ทั้งปีมายังไม่เคยใส่เลยนะแหละไป ต้องเชื่อใจการตัดสินใจตอนเช้ากันหน่อยซี่ นี่ปีหนึ่งแล้วยังไม่เคยอยากใส่ แล้วมันจะไปอยากกกกก ตอนไหนเนี่ย

  
   รีบๆ หน่อย มังฉงายบอกตัวเอง ก่อนที่ผู้คุมวิญญาณจะมาชักใยความห่วงหาอาวรณ์อีก ดูแล้วห้ามคิดว่ายังสวยอยู่ เดี๋ยวไม่ได้ไป เอากฎข้อเดียวคือ ปีนี้ไม่เคยใส่ หยิบแล้วลงกล่อง ไม่นานก็เต็มกล่อง รีบปิดกล่องแล้วยกลงข้างล่าง ยืนแป๊บเดียวรถของเกลออ้อนก็เฉี่ยวมารับของเสร็จก็รีบไป จะกลับไปดูการแข่งกีฬา


   มังฉงายกลับขึ้นไปอาบน้ำสระหัวอยู่นาน รู้สึกโล่ง ดีใจ พิชิตตู้เสื้อผ้าสำเร็จ เปิดตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักมีเสื้อผ้าวางพอเหมาะ ไม่ล้นและไม่ยุ่งดูดีจัง ราวแขวนเสื้อก็สบายๆ ไม่แน่น ดูความรู้สึกตัวเองก็เฉยๆ ไม่อาลัยอาวรณ์อะไร เพราะจำไม่ได้ว่าตัวไหนไปมั่ง ช่างมันเถอะ จำไม่ได้ก็ดีแล้ว มังฉงายยิ้มเท่ให้ตัวเองเป็นรางวัลแก่ผู้พิชิตในศึกครั้งที่ 4 นี้

1 ความคิดเห็น: